รู้จักกับโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ

โรคหลอดเลือดแดง ถ้าเกิดร่างกายมนุษย์เปรียบเป็นต้นไม้ เส้นโลหิตคงเปรียบเหมือนรากที่เชื่อมโยงอย่างมีระบบ เพื่อนำน้ำที่สะอาดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ แต่ว่าถ้าหากเมื่อใดที่รากต้นไม้มีภาวะตัน ก็จะทำให้ต้นไม้นั้นขาดน้ำในทันที

.

ร่างกายของมนุษย์ก็เหมือนกัน ถ้าหากเส้นโลหิตส่วนไหนมีการตัน ก็จะก่อให้เลือดไม่อาจจะไหลผ่านไปเลี้ยงอวัยวะปลายสายได้ นานวันเข้าก็จะกำเนิดปัญหา ตัวอย่างเช่น รอบ ๆ มือหรือเท้า เป็นต้นเหตุของโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายตีบ และก็บางทีก็อาจจะรุนแรงมากกว่า ถ้าหากขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มีความจำเป็นมากมาย ๆ ตัวอย่างเช่น สมอง หัวใจ ส่งผลให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ หรือโรคสมองขาดเลือด โดยเหตุนั้น การรักษาเส้นเลือดแดงให้อยู่ในภาวะที่แข็งแรง บริบูรณ์ ก็เลยเป็นเรื่องสำคัญเพื่อคุ้มครองตนเองจากโรคต่าง ๆ

โรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายตีบ มีต้นเหตุจากภาวการณ์เส้นเลือดแดงแข็ง รวมทั้งทำให้เส้นเลือดแดงที่ขาตีบหรือตัน ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี เจอโรคนี้ต่ำกว่า 3% แต่ว่าผู้ที่แก่กว่า 70 ปี เจอถึง มากยิ่งกว่า 20% เจออีกทั้งในผู้ชายและก็ผู้หญิงไม่มีความแตกต่างกัน คนที่เป็นโรคเส้นโลหิตแดงที่ขาตีบ แม้ว่าจะไม่มีอาการอะไร ก็มีความเสี่ยงที่เสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดหัวใจ รวมทั้งโรคเส้นเลือดสมองสูง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้เจ็บป่วยจำนวนมากที่เป็นโรคเส้นโลหิตแดงที่ขาตีบ ก่อให้เกิดโรคหัวใจ ตนสามารถเสียชีวิตได้ และก็โรคเส้นเลือดสมอง

อาการแสดงของโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายตีบ

กว่าร้อยละ 50 ของคนป่วยด้วยโรคดังที่กล่าวมา ที่ตรวจเจอด้วยเครื่องตรวจสมรรถนะเส้นเลือดแดง ABI ไม่มีการแสดงอาการอะไร เมื่อเส้นโลหิตตีบเยอะขึ้น เลือดไปเลี้ยงระบบร่างกายส่วนนั้นน้อยเกินไปผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะ ปวดน่อง เป็นตะคริว ชาบริเวณเท้า เหน็ดเหนื่อยง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาเดิน รวมทั้งจะเริ่มมีลักษณะปวดเมื่อเดินได้ระยะทางใกล้เคียงกัน อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ด้านการแพทย์เรียก Intermittent Claudication เมื่อเส้นโลหิตตีบมากยิ่งขึ้น จะพบลักษณะของการปวดไม่ว่าจะช่วงเวลาใด

ถ้าท่านมีลักษณะดังที่กล่าวถึงแล้ว จำเป็นต้องแจ้งให้หมอรู้ให้หมด เมื่อหมอสงสัยหมอจะซักความเป็นมา ตรวจสุขภาพ รวมทั้งส่งไปตรวจพิเศษเพิ่ม ถ้าการตรวจพื้นฐานพบว่าเส้นเลือดแดงตีบรุนแรง แล้วก็จึงควรได้รับการรักษา บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องได้รับการฉีดสี เพื่อตรวจเส้นเลือดเพิ่มเติมอีก โดยอาศัยแนวทางพิเศษร่วมกับการถ่ายภาพรังสีตลอด เป็นการตรวจเช็คการไหลเวียนเลือด และก็ตรวจหาบริเวณที่มีโอกาสจะเกิดการตีบแคบหรือตันได้

อย่าลืมที่จะใส่ใจและดูแลสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ และหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี

 

สนับสนุนโดย.  หูตึงรักษา