bookmark_borderเคล็ดลับของการเลี้ยงลูกน้อย ให้มีความเก่งและมั่นใจ

การเลี้ยงลูกมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเอาสะเลย หากใครที่กำลังเป็นแม่คนอยู่ เราขอแนะนำการที่จะทำให้ลูกของคุณนั้นมีความเก่ง และมีความมั่นใจกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่ เรามารับมือและเลี้ยงลูกไปพร้อมกันดีกว่า

เราจะทำอย่างไรให้ลูกของเราโตขึ้นมามีความมั่นใจ

1.พิจารณาการให้คำชื่นชม

การเลือกที่จะชมลูกในเรื่องต่างๆ ไม่ใช่ว่าลูกของคุณทำอันไหนได้ก็ชมไปสะหมด เด็กจะเกิดการชิน ว่าการชมเป็นสิ่งที่ดีหรือว่าทำอะไรก็ต้องรอให้พ่อแม่มาชม ดังนั้นการเลือกชมเฉพาะบางสิ่งจึงถือได้ว่ามันเป็นเรื่องที่พิเศษ อย่างไรก็ตามการให้กำลังใจลูกเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าเรื่องนั้นมันพิเศษมากๆคุณก็ควรชมแต่ก็ไม่ควรที่จะให้กำลังใจทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องที่เด็กทำในประจำวันอันนี้ก็ไม่ต้องชมก็ได้

 

2.อย่าพยายามช่วยลูกๆทุกเรื่อง

การปล่อยให้ลูกน้อยของคุณทำอะไรเองบ้างก็เป็นการฝึกทักษะให้อย่างหนึ่ง การที่เขากล้าที่จะทำก็ย่อมเป็นผลดีในอนาคต หากคุณช่วยเขาทุกเรื่องต่อไปเขาจะไม่มีความกล้าอะไรเลย หรือจะทำอะไรไม่เป็นเพราะต้องรอให้พ่อแม่มาช่วยอยู่ตลอด แบบนี้โตไปจะกล้าทำอะไรเองได้อย่างไร ดังนั้นพ่อแม่ไม่ควรที่จะฝึกความเคยชินด้วยการช่วยลูก ปล่อยให้เขาลองทำเรื่องผิดถูกดูบ้างจะเป็นการฝึกวินัยไปในตัว

 

3.ให้ลูกเลือกตัดสินใจเอง

หากมีการคิดการตัดสินใจใดๆก็ตาม เราผู้เป็นพ่อแม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกนั้นหาข้อมูลหรือตัดสินใจอะไรเองบ้าง บางครั้งอาจจะไม่ตรงกับใจเราเท่าไหร่ แต่มันคือความชอบของลูก เราควรมองอยู่ห่างๆ ให้เขาได้คิดได้ตัดสินใจ ในเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ พ่อแม่ไม่ควรเข้ามาจุ้นทุกเรื่องหรือตัดสินใจแทนเลย เพราะมันจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกในอนาคตได้

 

4.ส่งเสริมการชอบของลูก

ไม่ว่าลูกของท่านจะชื่นชอบอะไรเราผู้เป็นผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการชอบของลูกเพียงเพราะเขามีการตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ชอบ ดังนั้นเราควรคอยให้คำแนะนำเท่านั้นแต่ไม่ควรเข้าไปขวาง หรือห้ามในสิ่งที่ลูกชอบ สิ่งที่ลูกชอบนั้นมันไม่ได้แค่ส่งเสริมความคิดแต่มันจะทำให้ลูกมีความมั่นใจ การตัดสินใจ และลูกของคุณจะเก่งขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่นการเล่นกีฬา หากลูกน้อยของคุณชอบ และต้องกสนเล่น คุณก็ควรที่จะสนับสนุน ไม่ควรห้ามหรือไม่ต้องคิดเองเออเองว่าลูกอาจจะล้ม อาจจะเจ็บ ปล่อยให้เขาได้ทำอะไรด้วยตนเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

bookmark_borderผักที่ไม่ควรนำมากินดิบๆ อาจส่งผลอันตรายแก่ร่างกายของคุณได้

สำหรับผักบางชนิดเราก้ไม่ควรที่จะนำมาทานแบบดิบๆ หรือบางทีก็ต้องดูด้วยว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคบางชนิด โดยเรามักจะมองข้ามสำหรับผักที่ห้ามกินแบบดิบๆ โดยเฉพาะถั่วงอกนั้น เนื่องจากว่ามันมีสารปนเปื้อนบางอย่างอยู่ โดยมีการออกมาพูดกันหลายประเทศแล้วว่ามันมีสารที่ปนเปื้อนอยู่ไม่ควรที่จะกินแบบดิบๆ เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าการได้รับ

ผักที่เราไม่ควรนำมาทานแบบดิบๆได้แก่

1.ถั่วงอก

ถึงแม้ว่าถั่งงอกนั้นจะมีประโยชน์ก็จริง แต่ถ้าเราทานดิบๆก็อาจได้รับสารปนเปื้อนที่เป็นเชื้อราตามมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะส่งผลลบต่อร่างกายของเรา แต่ถ้าเรานำถั่วงอกไปผ่านความร้อนแล้วเราเชื่อว่าคุณจะได้ประโยชน์มากแน่ๆ นอกจากจะได้รับสารอาหารที่ดีแล้วเรายังปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ดีในการนำถั่วงอกมารับประทานก็คือการปรุงสุกและการล้างทำความสะอาดให้มากพอที่สารปนเปื้อนเหล่านั้นจะหายไป

2.กะหล่ำ

ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำดอกหรือว่าจะเป็นกะหล่ำปลีจำพวกกะหล่ำนี้ ไม่เหมาะกับกลุ่มคนที่เป็นโรคไทรอยด์อย่างแน่นอน เพราะว่าคนที่เป็นโรคไทรอยด์นั้นจะมีการทำงานของระบบภายในร่างกายที่ไม่ปกติ ซึ่งกะหล่ำจะช่วยในการเข้าไปเพิ่มการยับยั้งต่อการดูดซึมเข้าไปอีก ทีนี้ถ้าเขารับประทานกะหล่ำเข้าไปอีกโดยเฉพาะกะหล่ำปีดิบ

จะส่งผลการยับยั้งภายในร่างกาย อาจจะก่อให้ต่อมไทรอยด์โตขึ้นหรืออาการอาจจะทรุดหนักลงไปได้ แต่ถ้าคนไม่ได้เป็นไทรอยด์ก็ควรกังวลหากกินดิบเพราะกะหล่ำนั้นมีสารฆ่าแมลงค่อนข้างเยอะ

3.หน่อไม้และมันต่างๆ

สิ่งเหล่านี้มันจะมีสารไซยาไนด์ปะปนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อสุภาพของคุณในระยะยาว ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะ ดังนั้นการนำไปต้มที่ใช้เวลานานๆจึงช่วยได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้หรือจำพวกมันก็ตามจำเป็นที่จะต้องนำไปต้มก่อน สัก 10-15 นาทีเพื่อฆ่าสิ่งเจือปนเหล่านี้ แล้วค่อยนำมาทาน แต่ผู้ที่ชอบทานดิบเราไม่ขอแนะนำนะ

4.ถั่วฝักยาว

การกินถั่วฟักยาวสำหรับบางคนจะรู้สึกว่ามันไม่ย่อยหรือบางคนก็อาจจะเกิดอาการท้องอืดได้ซึ่ง  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    มันอาจจะส่งผลสำหรับบางคนก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้คนที่ชอบกินดิบสำหรับทัวร์ฟักยาวนี้ต้องบอกว่ามันมีสารฆ่าแมลงที่ค่อนข้างสูงดังนั้นการกินเข้าไปให้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อหรือผ่านการสุขแล้วอาจจะทำให้คุณได้รับสารยาฆ่าแมลงกับเขาไปได้สูงเช่นกัน

ไม่ว่าจะทานอะไรก็ตามการทำความสะอาดล้างสารที่ปนเปื้อนมานี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากอย่างเช่นถั่วฝักยาวนี้ก็เช่นกันถ้าหากคุณไม่ทานแบบสุขก็ควรที่จะล้างทำความสะอาดให้ถูกต้อง

bookmark_border3 ข้อดีของการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายมากๆ เพราะเนื่องจากว่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆนั้นอาจเกิดขึ้นได้โดยที่ตัวเราเองก็อาจไม่รู้ตัว ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวร่างกายไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม

เพราะการที่เราเคลื่อนไหวร่างกายนั้นก็เปรียบเสมือนกับการออกกำลังทำให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวทำให้อวัยวะต่างๆ มีการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะไม่ชื่นชอบการออกกำลัง ข้อดีของการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ จึงทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง

ดังนั้น สำหรับใครที่ไม่ได้ชื่นชอบการออกกำลังกายแต่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้ได้สุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งการที่เราเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม บางทีไม่ใช่การออกกำลังกายจะมีขอดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลย

ช่วยทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานบ้าน การเดิน หรือการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆนั้นจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจนส่งผลให้หัวใจ และหลอดเลือดมีความแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ช่วยลดความวิตกกังวล หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าการที่เราออกกำลังเป็นประจำหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บ่อยๆ  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่ากัน   นั้นจะไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย แต่การที่เราได้ผ่อนคลายในการทำกิจกรรมต่างๆนั้น จะยิ่งมีส่วนช่วยในการบรรเทาความเครียดและช่วยลดอาการวิตกกังวลของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกาย แน่นอนว่าการที่เราเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆนั้นก็เปรียบเสมือนกับการออกกำลังทำให้ร่างกายของเรามีระบบเผาผลาญไขมันที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเราเคลื่อนไหวบ่อยๆ ในการทำกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อของเราออกเยอะๆ แต่ไม่ใช่การออกกำลังกายจะยิ่งช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกายทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีรูปร่างที่ดีได้มากยิ่งขึ้น รับรองได้เลยว่าหากเราเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆนั้นนอกจากจะได้สุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคร้ายได้อีกด้วย

bookmark_borderพิษ “มดตะนอย” กับอาการที่ชี้ว่าเราอาจแพ้ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

พิษ-มดตะนอย ถ้าเราแพ้พิษของมดตะนอย นั้นเราก็มีโอกาศที่จะเสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายถึงตายได้ ลองดูอาการข้างหลังโดนมดกัดกันว่าเรามีอาการเสี่ยงการแพ้ร้ายแรงหรือเปล่า

ทำไมมดตะนอยกัด ถึงอันตราย

มดตะนอยนับได้ว่าเป็นสัตว์เป็นพิษประเภทหนึ่ง ซึ่งในอันตรายจากมดตะนอยมีสาเหตุจากเหล็กใน ในตัวมดตะนอยที่มีพิษพวกสารประกอบโปรตีนรวมทั้งสารอัลคาลอยด์ ทำให้คนที่ถูกต่อยมีลักษณะอาการแพ้ต่างๆและก็ที่น่าขนลุกเป็น มดตะนอยทำการดึงเหล็กในกลับมาใช้งานอีกครั้งได้เรื่อยๆหลายคราว ไม่เหมือนกับผึ้งที่ต่อยเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วทิ้งเหล็กในเอาไว้ในแผล

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจแพ้พิษของมดตะนอย

แนวทางดูง่ายๆว่าเราแพ้พิษมดตะนอยหรือเปล่า เป็นการพิจารณาได้เองว่า ถ้าเกิดโดนมดตะนอยกัดแล้วมีลักษณะแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ตัวชา อาเจียน อ้วก ท้องร่วง หรือมีลักษณะบวมขึ้น อย่างนี้ก็นับว่าอาการผิดปกติ แล้วก็ควรจะรีบนำผู้เจ็บป่วยไปพบหมออย่างเร็วที่สุด ดังนี้ ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการออกอาการจะแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่เป็นนาที กระทั่งเป็นชั่วโมง ภายหลังมดกัดรวมทั้งปลดปล่อยพิษไปสู่ร่างกายของมนุษย์แล้ว อาการและก็ความร้ายแรงจะแบ่งได้ 3 ชนิด

ปฏิกิริยารุนแรง

ภายหลังถูกกัดได้ราวๆ 15 นาที คนที่ถูกมดกัดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการที่แสดงว่าแพ้พิษของมดตะนอยอยร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่น การที่มีอาการ ผื่นแดงขึ้น ผื่นลมพิษ คัน มีลักษณะบวมที่ตา หน้า ส่วนต่างๆตามร่างกาย หรือบางบุคคลอาจมีอาการบวมตลอดตัว และก็การที่เราพูดคุยได้อย่างลำบาก  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    เนื่องจากการที่มีอาการตัวบวม การที่อาจจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจได้อย่างไม่สะดวก อาจจะมีสารคัดหลังไหลออกมาจากร่างกายของเรา

ผิวหนังเขียวคล้ำด้วยเหตุว่าหลอดลมในปอดหดลง มีผลให้ลมหายใจไม่สามารถที่จะไปทำการฟอกโลหิตได้ อาจจะมีการได้รับความอันตรายถึงการที่สมองขาดเลือด เซลล์สมองตาย การช็อตหรือมีการหมดสติ และก็อาจจะสามารถอันตรายถึงเสียชีวิตได้เลยด้วย ปฏิกิริยาเฉพาะที่ ถ้าเราถูกมดตะนอยกัด เป็นไปได้ว่าลักษณะการเจ็บ มีตุ่มคัน บวม แดง แต่เพียงแค่ไม่นานอาการจะหายไปเอง แต่ว่าในผู้ที่มีลักษณะร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่น

  • อาจมีลักษณะของการปวดบวมมากแต่ว่าไม่คัน
  • หน้ามืด เป็นลมเป็นแล้ง
  • เหงื่อไหลมากมาย
  • ปฏิกิริยาชนิดผิดธรรมดา
  • หลังจากที่เราถูกมดกัด อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการดังต่อไปนี้
  • เม็ดเลือดแดงแตก มีลิ่มเลือดแพร่ระบาด
  • มีการตันของเส้นโลหิตแดง เกิดภาวะเลือดไหลแล้วก็คั่งทั่วตัวกล้ามเนื้อตาย

bookmark_border3 ข้อห้ามที่ไม่ควรทำสำหรับวัยทำงาน หากอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี

ในสภาพแวดล้อมสมัยปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงาน ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ในชีวิตประจำวันนั้นอยู่แต่กับการทำงาน จนส่งผลให้ปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกาย จนส่งผลให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะการที่เราไม่ใส่ใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกาย อาจทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอได้ง่าย

เนื่องจากไม่ได้รับสารอาหารเพื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะทำงานหนักมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกาย เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เป็นสิ่งที่ดีต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งการมีสุภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปสำหรับวะยทำงานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี ดังนั้น สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็ควรที่จะให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพร่างกายให้มาก ๆ และที่สำคัญเราไม่ควรที่จะปล่อยละเลยการดุแลสุขภาพร่างกาย ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับข้อห้ามที่คนวัยทำงานมักที่จะมองข้าม ซึ่งหากอยากมีสุขภาพร่างกายควรที่จะให้ความสนใจกับข้อห้ามที่เรามักมมองข้าม จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

หารหลีกเลี่ยงการดื่มมากเกินไป เชื่อว่าวัยทำงานส่วนใหญ่หากมีเวลาว่าง หลังเลิกงานก็มักที่จะออกไปสังสรรค์ หรือออกไปดื่มกับเพื่อน ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์มากเกินไป จะส่งผลให้กระทบต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าจะลำลายเยื่อเมือกในกระเพาะอาหารของเราโดยตรง และที่สำคัญอาจทำให้เกิดการเป็นตับแข็งได้ง่าย ยิ่งถ้าเราดื่มบ่อย ๆ ก็จสนะยิ่งทำให้ร่างกายนั้นได้รับผลกระทบ จนส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ฉะนั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการดื่มมากเกินไป เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะดีกว่า 

ไม่ควรทานอาหารเย็นมากเกินไป คนที่ทำงานส่วนใหญ่เลือกที่จะรับประทานอาหาร โดยเน้นไปที่อาหารเย็น ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราเลือกทานอาหารเย็นมากเกินไป นอกจากจะทำให้เราอ้วนแล้ว ยังอาจส่งผลให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ง่ายอีกด้วย ทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดบาดแผลในกระเพาะได้ง่ายอีกด้วย ฉะนั้น การรับประทานอาหารแต่พอดี ไม่ว่าจะเป็นในมื้อไหนก็ตาม ก็สามารถช่วยลดการเกิดอาการต่าง ๆ ได้ แถมยังช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีได้อีกด้วย 

ไม่ควรเครียดหรือมีความกังวลมากเกินไป อย่างที่เราทราบกันดีว่าความเครียดเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพร่างกาย ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความเครียดมาเกินไป หรือมีความกังวลใจมากเกินไป แน่นอนว่าจะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างแน่นอน ดังนั้น หากอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี ไม่ควรเครียด หรือมีความกังวลใจมากเกินไป หากรู้สึกว่าตนเองมีความเครียด ก็ควรที่จะรีบหาอะไรทำเพื่อให้ตนเองรู้สึกผ่อนคลายได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพร่างกที่ดี 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ