ลัทธิใหม่ นุ่งห่มสีดำ เรียกตนเอง เทพสุริยะ

           เมื่อวันที่ 18 เดือนเมษายนพ.ศ 2554 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการติดต่อไปที่หมอปลาและพระมหาไพรวัลย์เพื่อให้ช่วยเดินทางมาที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ที่จังหวัด บุรีรัมย์  โดยสถานที่ดังกล่าวเขาซึ่งที่นี่เรียกว่าดินแดนปฏิบัติธรรมพุทธชาติดงพญาเย็น   ได้หญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้เล่าว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นครูชื่อว่าครูต้อยได้มาอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้และไม่ยอมกลับบ้านมาเป็นระยะเวลาหลายวันแล้วโดยลูกสาวไม่สามารถติดต่อคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ได้

          ที่สำคัญแม่ของเธอนั้นได้นำเงินและทรัพย์สินมีค่ามากมายมาถวายให้กับสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ซึ่งเบื้องต้นที่เธอตรวจสอบนั้นพบว่าคนที่เป็นเจ้าของสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้นั้นที่เรียกตัวเองว่าเทพสุริยะโดยมีลักษณะของการแต่งกายนุ่งห่มสีดำเลียนแบบคล้ายการแต่งกายของพระสงฆ์และสถานที่ที่แม่ของเธอมาอยู่นั้นก็ยังเป็นสถานที่ที่มีลูกศิษย์ลูกหาชาวบ้านในพื้นที่มากราบไหว้บูชาองค์เทพสุริยะกันเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ไปคนที่มาเป็นลูกศิษย์ต่างก็นำทรัพย์สินมีค่าของตนเองมาถวายให้กับองค์เทพสุริยะด้วย

           ซึ่งลูกสาวของครูต้อยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่งมงายและเธอต้องการที่จะรับตัวไม่ได้ของเธอกลับไปโดยเธอต้องการให้พระมหาไพรวัลย์และหมอปานนั้นช่วยเพื่อกล่อมแม่ของเธอซึ่งในที่สุดลูกสาวของครูต้อยก็สามารถพบตัวครูต้อยในขณะที่ครูต้อยนั้นนั่งรถกระบะคันนึงกำลังจะเข้าสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวโดยทางลูกสาวได้ไปยืนขวางหน้ารถและพยายามเคาะกระจกรถยนต์ในที่สุดก็สามารถนำตัวครูต้อยลงจากรถคันดังกล่าวได้และพากลับบ้านได้ซึ่งกว่าจะสามารถพากลับบ้านได้นั้นเพราะต้องประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะเอาผิดไลน์ที่ขับรถมาส่งครูต้อยที่สถานปฏิบัติธรรม

            หลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวสามารถพาแม่ของตัวเองกลับบ้านได้แล้วทางด้านหมอปลาและพระมหาไพรวัลย์รวมถึงลูกสาวของครูต้อยก็ได้มีการเข้าไปคุยกับผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเทพสุริยะโดยสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของลัทธิและหลักคำสอนต่างๆซึ่งทางด้านชายที่อ้างว่าตนเองคือเทพสุริยะนั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวรวมถึงทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวว่าตัวเขาเองนั้นไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์เหมือนกับที่บรรดาลูกศิษย์ของเขาได้เอาไปป่าวประกาศว่าเขานั้นสามารถรวมแผ่นดินได้รวมถึงนั่งสมาธิแล้วลอยขึ้นได้

             โดยเขายืนยันว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้ปฏิบัติศีลและธรรมเพียงเท่านั้นและไม่ได้มีปฏิหารใดๆเขายังคงกินอาหารครบ 3 มื้อไม่ได้กินเพียงแค่น้ำมะพร้าวอย่างเดียวเหมือนกับที่ลูกศิษย์เอาไปป่าวประกาศอย่างไรก็ตามหลังจากที่ถูกหมอปลาและพระมหาไพรวัลย์ซักถามจนไม่สามารถตอบคำถามได้ชายคนดังกล่าวก็ได้ลุกเดินหนีพร้อมทั้งยืนยันจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    แทงหวย